Tuesday, April 21, 2015

ปลาร้า Pickled fish

      Many foods are derived from the native that eating food preservation. Which transforms raw materials acquired by many to see if stored for a long time. One diet is known as a condiment or pledge to eat cooked food that is famous as good as anyone.

      Pickled fish (Plaa ráa) As mentioned, many of these people may be turned away not with this kind of local food of the ancient Thailand. Now many of them may have unwittingly interview believers samples even refused to eat pickle fish that eat papaya salad or forgotten by department stores, They led the orange to the department as a menu for celebrities. Office stores sit exactly. Although the relationship is not as low as the picked fish could not be denied, and will make sure they have the materials or ingredients are not pickled green papaya mixed with papaya salad in the shop.



      Many foreign Thai’s workers especially those who labor for food such as bread, roti ,japati. They see signs like this are rarely fully strengthened. If the project they are ordering Thai’s food  imported into the rice, asparagus, pickled or colleagues at the back of leave to the duty, they pick pickled fish (Plaa ráa sap,Jeaw bong,Bong Sauce) to be regarded as a meal delicacy strong to work.

       The fish fermented, the early to say these words to think of the Northeast in Thailand with the seasoning. The fish are eaten throughout the country eating fish though. Fish is a staple for the "Jeaw bong”(Bong Sauce), the food export some famous in stores abroad. Thailand for overseas workers are far supermarket, it will make it my own, and distribute to colleagues.

Pickle fish flavoring

The pickle fish are kept for yourself some extent follows.
1. 5 kg of fresh fish.
2. Salt 1kg.
3. The coarse bran or rice roast powder 300 - 500 grams.
4. Small jars or bottles (Containers coffee)

Pickled fish recipe

1.  Fish fresh(Choose a good-sized fish)
2. Wash the fish fresh(dissolved in preparation for washing separately), a large size cut about 2 inches wide heads cut off and cut entrails the fish out. Wash the fish thoroughly, especially the elephant.
3. Add the salt, roasted yellow light moderation. Place to cool down lap
4. Remove the salt is prepared to apply over the fish. The fish in the holes
5. Fish packing capacity in the container tightly closed. If using plastic jars tightly with a rubber band stretched off.
6. marinated fish in 1 week.
7. At the end of 1 week was taken as bran or rice, cooked, roasted yellow careful not to burn the black out. they take it to cool down.
8. Remove the pound roasted or ground to break the terrestrial as well.
9. Bring the salted fish in a week, rice bran, rice, roasted or roasted. Mix the marinade over the fish hold.
10. Remove fish or rice bran mixed back into the container tightly closed packing capacity with one month left to eat.




Pickled fish Technique (Delicious spicy).

1. Fresh fish (Need a more natural fish)
2. Catfish may be done at all stripes. Fish have scales flake off.
3. Roasted rice bran, beans, cooked in a light yellowish and not to scorch. (If the fish will burn out black) finish roasting be done immediately.
4. Salt rice bran to make the corner and around the fish.
5. containers must be cleaned. Exposed to dry and after packing capacity must be closed tightly.
6. rice bran determine the color and smell of fish can be applied together or to put either.
7. After the first fish marinated fish and see the fish that hard or not. (If frozen fish is mixed with salt well absorbed. If samples are not solid enough to fish salt water to fill up).
7. recipe for this sauce will come out of fermentation. Do not have to add water to the due date eat it.

     The fish is not complicated, you can now do keep up the food one eats. Then you know that it is easy to think and fish recipes for consumption or distribution of the work of the friends of the audience will have a salad recipe.

    
      
 ปลาร้า
     อาหารพื้นบ้านหลายอย่างมีความเป็นมาจากภูมิปัญญาชาวบ้านที่เก็บถนอมอาหารไว้รับประทาน ซึ่งเป็นการแปรรูปวัตุดิบที่ได้มาจำนวนมากตามถดูการให้เก็บไว้ได้เป็นระยะเวลานาน อาหารอย่างหนึ่งที่ขึ้นชื่อว่าเป็นเครื่องปรุงรสหรือจะนำมาปรุงสุกรับประทานเลยก็ได้ถือเป็นอาหารที่มีชื่อเสียงที่รู้จักดีกันทุกคน
  
ปลาร้า (Pla ráa,อีสาน ปลาแดก) เมื่อเอ๋ยถึงคำนี้หลายคนอาจจะเบือนหน้าหนีรับไม่ได้กับอาหารพื้นบ้านชนิดนี้ของไทยที่มีมาแต่โบราณ เดี๋ยวนี้หลายคนอาจได้สัมผ้สโดยไม่รู้ต้วแม้ว่าปฏิเสธการกินปลาร้าหรือลืมไปว่านั่งทานส้มตำตามห้างสรรพสินค้าใหญ่ในปัจจุบันเขานำส้มนำขึ้นห้างปรุงรสส้มตำเป็นเมนูเด็ดสำหรับบุคคลทั่วไป พนักงานสำนักงาน ร้านค้า ที่มานั่งรับประทานส้มตำ ถึงแม้จะสั่งสัมตำชนิดที่ไม่ใส่ปลาร้าคงปฏิเสธไม่ได้และจะมีมั่นใจได้อย่างไรกับวัสดุทำส้มตำหรือเครื่องปรุงจะไม่มีปลาร้าผสมมาด้วยในเมื่อร้านขายส้มตำปลาร้า

     คนทำงานต่างประเทศหลายที่โดยเฉพาะคนที่ใช้แรงงานอาหารกินประจำเป็นจำพวกขนมปัง แป้ง โรตี จาปาตี หมั่นโถ อยู่ทำงานระยะหนึ่งกินอาการจำพวกนี้ดูกำลังเรี่ยวแรงจะไม่ค่อยเต็มที่ ถ้างานโครงการไหนมีการสั่งอาหารไทยนำเข้ามาอย่าง ข้าวเหนียว หน่อไม้ดอง หรือเพื่อนร่วมงานที่กลับมาจากการไปพักนำของฝากน้ำพริกปลาร้า(แจ่วบอง) พริกหนุ่ม แคบหมู มาฝากถือว่าเป็นมื้ออันโอชะมีพละกำลังทำงานอย่างแข็งขันซึ่งถือเป็นผลพลอยได้อย่างหนึ่งที่เป็นประโยชย์ของปลาร้า

     ปลาร้า ในสมัยก่อนพูดคำนี้จะนึกถึงคนภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่มีไว้ปรุงรส ปัจจุบันปลาร้ามีรับประทานกันทั่วทุกภาคของประเทศไทยรับประทานปลาร้ากันทั้งนั้น ปลาร้าถือว่าเป็นวัตถุดิบสำหรับทำ “แจ่วบอง”(Jeaw bong,Bong Sauce)  ซึงเป็นอาหารส่งออกต่างประเทศบางที่มีชื่อเสียงขายตามห้างในต่างประเทศ สำหรับคนไทยในต่างประเทศ แรงงานไทย ที่อยู่ห่างไกลซุปเปอร์มาเก็ตร์ก็จะทำปลาร้าไว้กินเองและเอาไว้แจกจ่ายกับเพื่อนร่วมงาน



วัสุด อุปกรณ์

     การทำปลาร้าสำหรับเก็บไว้รับประทานเองที่พอเหมาะ ดังนี้
1.ปลาสด 5 กก.
2.เกลือ 1 กก.
3.รำละหยาบหรือข้าวคั่วป่น 300 – 500 กรัม
4.ภาชนะบรรจุ ไหเล็ก ขวดโหลหรือขวดกาแฟ

 สูตรทำปลาร้า

1.ปลาสด เลือกขนาดพอเหมาะ
2.นำปลาสดมาล้างน้ำเกลือ(เตรียมละลายไว้สำหรับล้างไว้ต่างหาก) ตัวใหญ่ตัดแนวขวางกว้างประมาณ 2 นิ้ว หัวปลาตัดออกและควักออกใส้ปลาออก ล้างปลาให้สะอาดโดยเฉพาะช่วงท้องปลา
3. นำเกลือคั่วไฟอ่อนพอประมาณออกเหลือง ตักวางให้เย็นลง
4. นำเกลือที่เตรียมไว้ทาให้ทั่วตัวปลา รวมทั้งในซอกท้องปลา
5.นำปลาบรจุในภาชนะปิดฝาให้แน่น ถ้าเป็นไหให้ใช้ถุงพลาสติกขึงปิดรัดให้แน่นด้วยยาง
6.หมักปลาไว้ 1 ส้ปดาห์
7.เมื่อครบ 1 ส้ปดาห์ นำรำหยาบหรือข้าวสารมาคั่ว สุกออกเหลือง ระวังอย่าให้ไหม้จนออกดำ นำมาวางไว้ให้เย็นตัวลง
8.นำข้าวคั่วมาตำหรือป่นให้แตกพอประาณ
9.นำปลาปลาที่หมักเกลือไว้หนึ่งสัปดาห์มาคลุกกับรำคั่วหรือข้าวคั่วบด คลุกเคล้าให้ทั่วตัวปลาที่หมักไว้
10. นำปลาที่คลุกรำหรือข้าวคั่วกลับเข้าภาชนะบรจุปิดฝาให้แน่นทิ้งไว้หนึ่งเดือนพร้อมรับประทาน

เทคนิคทำปลาร้า (รสอร่อย แซบ)

1.ปลาต้องเป็นปลาสด ปลาแม่น้ำ ปลาตามธรรมชาติยิ่งรสชาติดี
2.ปลาหนังทำได้เลยหั่นหรืออาจทำเป็นบั้ง ปลาเกล็ดต้องขอดเกล็ดออก
3.รำคั่ว ข้าวคั่ว คั่วไฟอ่อนให้สุกในออกเหลืองและอย่าให้ไหม้เกรียม (ถ้าไหม้ปลาร้าจะออกสีดำ) คั่วเสร็จต้องทำทันที
4.เกลือ รำ ข้าวคั่ว ต้องทาตามซอกและทั่วตัวปลา
5.ภาชนะบรรจุต้องล้างให้สะอาด ตากไว้ให้แห้งและหลังบรจุต้องปิดฝาให้แน่น
6.รำ ข้าวคั่ว กำหนดสีและกลิ่นของปลาร้าสามารถไช้ร่วมกันได้หรือจะใส่อย่างใดอย่างหนึ่ง
7.หลังหมักปลาในช่วงแรกจับปลาและกดูตัวปลาดูว่าแข็งหรือไม่ (ถ้าแข็งถือว่าคลุกเคล้าเกลือได้ดีตัวปลาดูดซึม ถ้าต้วปลายังไม่แข็งพอนำเกลือผสมน้ำเติมเพิ่มลง)
7.สูตรการทำนี้น้ำปลาจะออกมาเองจากการหมัก จึงไม่ต้องเติมน้ำรอครบกำหนดวันเปิดรับประทานได้เลย
8.การเก็บหมักปลาร้าต้องเก็บในสถานที่อากาศถ่ายเทได้ดี แสงแดดส่องไม่ถึง ขวดโหลหรือภาชนะที่บรรจุปลาร้าต้องเป็นภาชนะทึบแสง(อย่างเช่นไห) ถ้าปลาร้าถูกแสงแดดและอากาศจะทำให้ปลาร้ามีสีคล้ำ ที่เก็บหากเก็บไว้ในที่เย็นเกินไปจะทำให้กลิ่นไม่หอม

     การทำปลาร้าเป็นวิธีการไม่ยุ่งยากซับซ้อนทุกท่านสามาถทำกันเก็บไว้กินได้นานเป็นการถนอมอาหารอย่างหนึ่ง ท่านที่สนใจทำลองทำดูแล้วจะรู้ว่าการทำไม่ยุ่งยากอย่างที่คิดและปลาร้าสูตรเด็ดที่เก็บไว้กินหรือแจกจ่ายเพื่อนเป็นฝีมือของท่านรับรองจะมีคนชมสมคำปลาร้าสูตรเด็ด

No comments:

Post a Comment